ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

Semi Final
Yes or No Innovation | Lysoyoung ผ่านรอบ Semi Final
26 กุมภาพันธ์ 2017

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

นมผึ้ง คือ สุดยอดอาหารผิว เป็น อาหารสำหรับราชินีผึ้ง


นมผึ้ง หรือ รอยัลเยลลี่ (Royal Jelly) เป็นสารชนิดหนึ่งที่ผลิตจากต่อมพิเศษคือ ต่อม Hypopharyngeal ข้างศีรษะของผึ้งงานที่มีอายุ 5-15 วัน มีลักษณะเป็นของเหลวข้น สีขาวครีม มีกลิ่นออกเปรี้ยว รสค่อนข้างเผ็ดเล็กน้อย นมผึ้ง จะกลายเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงราชินีและตัวอ่อนของผึ้ง ซึ่งจะช่วยบำรุงให้ราชินีมีอายุยืนยาวและตัวอ่อนผึ้งเติบโตแข็งแรงต่อไป จึงเรียกว่าเป็นอาหารราชินีหรืออาหารนางพญา

 

เมื่อนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางจะ ทำให้ผิวพรรณดี ดูอ่อนกว่าวัย

จากการที่นักวิทยาศาสตร์แนวหน้าหลายท่านจากหลายประเทศได้ทำการศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์นมผึ้ง เช่น ดร. Takao Takeuchi ในมหาวิทยาลัย keio ได้รายงานว่า โรเย็ลเจลลี่สามารถชะลอความแก่ และ Dr. Keyoshi Kobayashi ได้รายงานว่า นมผึ้งป็นสารที่เปรียบเสมือน Parotin สามารถทำให้ผิวพรรณเต่งตึง นุ่มนวล แวววาว และสามารถขจัดฝ้าได้เป็นอย่างดี

 

คุณประโยชน์ของนมผึ้งนั้น จากผลการวิเคราะห์พบว่ามีวิตามินและแร่ธาตุตาม ธรรมชาติ อยู่เป็นจำนวนมาก และบางชนิดไม่สามารถพบในอาหารอื่นๆ แร่ธาตุที่ค้นพบว่า มีอยู่ในนมผึ้ง ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีนในรูปของกรดอะมิโน ฟอสฟอรัส กำมะถัน แร่ธาตุ วิตามิน ที่พบว่ามีอยู่เป็นปริมาณมาก คือ วิตามิน บี1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 และบี 12 นอกจากนี้ยังมี วิตามินซี ไบโอติน โฟลิคแอซิค อิโนซิโทล และกรดไขมัน 10-HYDROXY 2-DECANNOIC ACID อาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ เหล่านี้ให้คุณประโยชน์สำคัญต่อร่างกายและผิวพรรณ ที่สำคัญคือวิตามินบี ได้แก่ ไธอามีน ไรโบฟลาวิน ไบโอติน ฯลฯ ซึ่งเป็นสารจำเป็นต่อกระบวนการทำงานของโปรตีน และเชื่อกันว่าเป็นวิตามิน รวมถึงกรดโฟลิกและวิตามินบี 12 และยังมีอะเซตทิลคลอไรด์ ต่อต้านความชรา ในส่วนของการบำรุงผิว มีผลต่อการสร้างเซลส์ใหม่และเนื้อเยื่อใหม่ ควบคุมการสร้างเซลส์และเนื้อเยื่อที่ฉีกขาด สึกหรอให้ฟื้นคืนสภาพได้รวมเร็วขึ้น ขจัดเซลส์เก่าที่ตายไปตามวงจรชีวิต ป้องกันการเกิดเซลส์ผิดปกติต่าง ๆ

 

นมผึ้งเข้มข้น ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณ งามจากภายในอย่างธรรมชาติ เห็นผลอย่างชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยได้มีการทดลองแล้วว่า หากผู้หญิงใช้นมผึ้งสดทาหน้า วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน พบว่าผิวดูเปล่งปลั่งนุ่มนวลขึ้นมาก และเมื่อใช้เป็นประจำผิวจะเต่งตึง ขาวเนียน สดใส ชะลอการเกิดริ้วรอย อย่างไม่น่าเชื่อ

 

คุณค่าสารอาหารในนมผึ้ง มีอยู่กว่า 60 ชนิด แต่ขอย่อสรุปส่วนที่ประโยชน์ต่อผิวพรรณ  มีดังนี้

  1. กรด 10 hydroxy-2-decenoic acid มีฤทธิ์ต้านทานการเจริญของแบคทีเรียต้านกัมมันตรังสีและยังยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ
  2. กรดซีลาอิก (sebaic acid) ช่วยต้านทานการเจริญของเชื้อราบนผิวหนัง
  3. ไกลโคโปรติน (glycoprotein) ช่วยให้ผิวหนังสดใส มีสปริง และไร้สิวฝ้า
  4. กรดแพนโทเธนิค (pantothenic acid) ช่วยบำรุงผิวพรรณ
  5. วิตามินบี2 (riboflavin) ช่วยรักษาผิวหนัง
  6. พาโรติน เป็นโปรตีนที่ช่วยสร้างเซลล์ต่างๆให้สดชื่น
  7. กรดอมิโนที่จำเป็น เป็นกรดอมิโนที่ทุกคนจำเป็นต้องใช้เด็กวัยอ่อน จำเป็นต้องอาศัย Essential amino acid
  8. Essential amino acid กระตุ้นให้ร่างกายเจริญเติบโตไปตามวัย วัยกลางคน ร่างกายต้องการเพื่อให้เกิดเมตาโบลิซึม
  9. ไลซิน ช่วยทำให้การผสมในร่างกายสมบูรณ์มากขึ้น  22.ลูซีน เป็นตัวสำคัญในการเกิดเมตาโบลิซึมของไขมัน
  10. เธโอนีน ทำให้เกิด Metabolism ของ nucleic acid
  11. โซเดียม เป็น Anion ของ Plasma ทำให้เกิดความสมดุลของกรด และด่าง ในร่างกาย
  12. R-Substance เป็นสารลึกลับมหัศจรรย์ ทำให้ร่างกายแข็งแรงมีอายุยืน

ผึ้งแต่ละรังจะผลิตนมผึ้งในปริมาณน้อย นมผึ้งจึงมีราคาสูง นมผึ้งสดๆ จะเก็บได้ไม่นาน จะสลายตัวอย่างรวดเร็ว หากผลิตอย่างดีมีคุณภาพจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก

 

คุณภาพของ นมผึ้งจะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของนมผึ้งและอายุของ ผึ้งที่เป็นตัวผลิตรวมทั้งวิธีการเก็บ เช่น เก็บจากรังผึ้งอ่อนหรือเก็บจาก รังผึ้งนางพญา อายุของนมผึ้งที่จะเก็บไว้ได้นานหรือไม่ก่อนถึงผู้บริโภค ขึ้นอยู่กับลักษณะการเก็บนมผึ้ง เช่น การเก็บในช่องแข็งหรือนำมาผสม กับน้ำผึ้งหรือสารอื่น เป็นต้น ซึ่งนมผึ้งยังได้มาจากหน้าที่ของมันคือใช้ เลี้ยงตัวอ่อนเช่นเดียวกับที่ใช้เลี้ยงทารก ผึ้งงานใช้นมผึ้งเลี้ยงดูตัวอ่อนของ ผึ้งทุกวรรณะในระยะ 3 วันแรกของตัวหนอน (larva) หลังจากนั้นหนอนของ

 

นมผึ้งที่บริสุทธิ์ต้องไม่มีสิ่งปนปลอมเช่นตัวอ่อนหรือชิ้นส่วนของ ไขผึ้ง นอกจากนี้โลหะหนักต้องน้อยกว่า 1 ส่วนในล้านส่วน และต้องไม่พบยาปฏิชีวนะ เตตราไซคลิน (tetracycline) นมผึ้งที่ความคงตัวดีที่สุดควรเก็บในรูปผงแห้ง ภายใต้ก๊าซไนโตรเจน อาจจะเก็บไว้ที่อุณหภูมิเยือกแข็งแต่ถ้าเก็บนานๆ สีของ นมผึ้งจะเข้มขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของกรดดีเซนโนอิก (decenoic acid) ยิ่งถ้าถูกอากาศมากสีจะยิ่งเข้มขึ้น ความร้อนจะทำให้ คุณสมบัติในการ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียของนมผึ้งลดลง นมผึ้งจะถูกทำลายได้ง่าย ถ้าผสมกับน้ำตาลแล็กโทส (lactose)

 

อย่างไรก็ดีคุณภาพของนมผึ้งที่ได้ใหม่ๆ และกรรมวิธีในการเก็บรักษาจะมีผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพของนมผึ้ง

 

การเก็บเกี่ยวนมผึ้ง


การจัดการเกี่ยวกับการเลี้ยง โดยเฉพาะทำเลที่เป็นแหล่งอาหารของผึ้งต้องมีอย่างเพียงพอ ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร ที่ผึ้งจะบินออกหากิน หากไม่พอก็จะต้องย้ายไปหาแหล่งอาหารใหม่อาหารของผึ้งก็คือ น้ำหวาน และเกสรดอกไม้ ผู้เลี้ยงจะต้องออกไปสำรวจว่ามีบริเวณไหน ปลูกฟักทอง ข้าวโพด งา ทานตะวัน ฯลฯ เรื่องการจัดการเกี่ยวกับอาหารตรงนี้สำคัญมาก จะต้องรู้ว่าช่วงไหนเดือนไหนดอกไม้อะไรผลิดอกบานบ้าง การวางโปรแกรมการหาแหล่งอาหารให้กับผึ้ง ดังนี้
เดือนมกราคม จะมีดอกทานตะวัน ดอกนุ่น และดอกสาบเสือมาก (แหล่งอาหารจะอยู่ที่ลพบุรี และสระบุรี) เราจะต้องตัดสินใจว่าจะพาไปกินน้ำหวานจากดอกไหนดี

ดอกทานตะวันและดอกนุ่นมีน้ำหวานเยอะ ผึ้งต้องเก็บกันวันละหลายเที่ยว เพราะมันไม่รู้จักพอ ทำให้ผึ้งทำงานหนัก ทรุดโทรมได้ ขณะที่ดอกสาบเสือ น้ำหวานมีน้อย ผึ้งต้องเก็บประมาณ 8 ดอกจึงจะเต็มกระเพาะ ทำให้ต้องใช้พลังงานเยอะ หากไม่สมดุลตัวผึ้งจะโทรมได้เหมือนกันŽ

มีหลักการว่า นำผึ้งไปเลี้ยงที่ทุ่งทานตะวันพอเห็นว่าผึ้งโทรมก็ไปพักฟื้นที่ดอกสาบเสือ แต่ก็ไม่เสมอไป ต้องหมั่นสังเกตเกี่ยวกับชีวิตผึ้งเป็นหลักพอเดือนกุมภาพันธ์ ถนนทุกสายจะมุ่งไปที่ลำพูน เชียงใหม่ เพื่อนำผึ้งไปเลี้ยงในสวนลำไย ถือว่าเป็นดอกไม้ที่ให้ผลดีที่สุดดอกหนึ่งและมีแหล่งอาหารเพียงพออย่างน้อยก็ 2-3 เดือน

ใส่ความเห็น